หลังเสริมจมูก ปลายจมูกแดง
ปัญหาที่พบบ่อยในกลุ่มคนที่ทำศัลยกรรมเสริมจมูก ก็คือ “ปลายจมูกแดง” โดยทั่วไปมักพบในกรณีที่เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขจมูก แต่ถ้าเป็นการผ่าตัด เสริมจมูก ทั่วไปจะพบไม่มากเท่าไหร่นัก
ซึ่งการแก้ไขจมูก มีด้วยกันหลายกรณี เช่น มีการฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไปจะต้องทำการเลาะฟิลเลอร์ออก ซึ่งทำได้ยากมาก หรือการแก้ไขจมูกที่เสริมด้วยซิลิโคน การแก้ไขจมูกทั้งสองวิธีนี้มีผลทำให้ปลายจมูกแดงได้ ซึ่งมีสาเหตุจาก
- เนื้อเยื่อบอบช้ำ เพราะเนื้อเยื่อบริเวณปลายจมูกนั้นค่อนข้างบาง
- บริเวณเนื้อเยื่อตรงปลายจมูกมีเลือดมาหล่อเลี้ยงน้อย หรือขาดเลือด (ในกรณีที่แก้ไขจมูกโดยการเลาะฟิลเลอร์ เพราะแพทย์ต้องเลาะฟิลเลอร์แลพังผืดออกให้หมด)
- เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เพราะในโพรงจมูกมีสิ่งสกปรกอยู่ การอักเสบและติดเชื้อมักเกิดขึ้นในกรณีที่เสริมจมูกด้วยวัสดุเทียม
ภาวะปลายจมูกแดงไม่เป็นเรื่องที่ต้องกังวล หากได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง รับการผ่าตัดแก้ไขจมูกกับแพทย์ที่มีฝีมือ และต้องเลือกคลินิกที่มะบบฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อขณะที่ทำการผ่าตัด
และสิ่งสำคัญที่ข้อที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือ การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดแก้ไขจมูก เพื่อป้องกันการเกิดภาวะปลายจมูกแดง หลังเสริมจมูกหรือแก้ไขจมูก ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ งดอาหารหมักดอง งดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้เกิดการติดเชื่อได้ง่าย และจะทำให้แผลหายช้า และหลังผ่าตัดควรมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการผ่าตัดรักษา เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปอย่างดีที่สุด
ถอดซิลิโคนเสริมจมูก แล้วจมูกเป็นรอยบุ๋ม
จะทำอย่างไรดี เมื่อถอดซิลิโคนที่เสริมจมูกออก แล้วจมูกเป็นรอยบุ๋มตรงปลาย ?
หากมีการผ่าตัดเพื่อถอดซิลิโคนออก หรือมีการแก้ไขจมูก ด้วยการขูดเลาะฟิลเลอร์ หรือซิลิโคนเหลวที่เคยฉีด อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณจมูกหายไปบางส่วน เมื่อเนื้อเยื่อบางส่วนหายไป ก็ทำให้เกิดรอยบุ๋มตรงบริเวณปลายจมูก ซึ่งอาการดังกล่าวจะเป็นเพียงชั่วคราว คือประมาณ 3 เดือน เพื่อให้เนื้อเยื่อเติมเต็มส่วนที่หายไป แต่สำหรับใครที่แก้จมูกมาเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนขึ้นไปแล้ว แต่รอยบุ๋มยังไม่หายก็จะต้องทำการรักษา
การผ่าตัดเพื่อรักษารอบบุ๋มตรงปลายจมูก มีวิธีการรักษาได้หลายวิธี หลักการคือเติมเต็มส่วนที่หายไปของเนื้อเยื่อ เพื่อให้รอยบุ๋มน้อยลง จนหายเป็นปกติ
- หากมีรอยบุ๋มไม่ใหญ่มาก เป็นรอยเพียงเล็กน้อย และไม่มีอาการอักเสบแทรกซ้อน สามารถรักษาได้โดยการใช้ไขมันเติมเต็มในส่วนที่เนื้อเยื่อหายไป ซึ่งไขมันที่ใช้จะดูดมาจากส่วนอื่น เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน หรือใต้คาง เพื่อนำมาฉีดเต็มรอยบุ๋ม
- จมูกมีรอยบุ๋ม และจมูกส่วนอื่นไม่มีความผิดปกติ ก็สามารถทำการเลาะพังผืดออกก่อน แล้วทำการเสริมจมูกและตกแต่งจมูก
- จมูกมีรอยบุ๋ม และมีความผิดปกติอื่นร่วมด้วย เช่น ปีกจมูกผิดรูป รูจมูกไม่เท่ากัน หรือ กระดูกปลายจมูกรูปทรงผิดรูป กรณีต้องทำการเลาะพังผืด ตกแต่งกระดูกอ่อนเพื่อแก้ไขปัญหาที่ผิดปกติร่วมกัน และอาจจะต้องเสริมซิลิโคนเพื่อความสวยงาม การแก้ปัญหาขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน ?
หลังจากการผ่าตัดเพื่อแก้ไขรอยบุ๋มตรงปลายจมูกแล้ว จะต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการพักฟื้น ในช่วงเวลา 6 เดือนนี้เนื้อเยื่อจะฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่
เมื่อถอดซิลิโคนจมูกออก แล้วมีรอยบุ๋มตรงจมูกไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาไม่นานรอยบุ๋มก็จะหายเป็นปกติ ต่ำหรับใครที่รอยบุ๋มยังไม่หาย หรือยังมีรอยอยู่เล็กน้อยก็เข้าไปรับการแก้ไขกับแพทย์ได้ค่ะ